“สวีทนุช...ที่สุดแห่งหวาน”...เธอกลับมาแล้ว!! / หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ / โดย ต่อพงษ์ / 9 พฤศจิกายน 2553
เมื่อครั้งที่ออกอัลบั้ม สวีทนุช เมื่อปี 2551 ผมคิดว่านั่นคือ ช่วงเวลาท็อปฟอร์มของชายชื่อ บรรณ สุวรรณโนชิน โปรดิวเซอร์คนเก่งที่กล้าและเจ้าของ “ใบชา song “ ค่ายเพลงอินดี้ที่น่าสนใจทั้งรูปแบบและเนื้อหาไปจนกระทั่งกรรมวิธีผลิตที่จะฉีกกรอบและฉีกวังวนที่สุดแสนจะน่าเบื่อของวงการเพลงไทย
ค่ายนี้ทำมาหลายแนวครับ แต่ที่ผมว่า “สวีทนุช” คือการลงหลักปักฐานที่จะประกาศให้คนไทยรู้ว่า ใบชา song คืออะไร เพราะในภาคดนตรีนั้น คุณบรรณตั้งใจจะทำให้เราย้อนอดีตไปถึงยุคของสุนทราภรณ์ ทั้งเครื่องดนตรีที่ใช้ดนตรีสดเล่น เครื่องอาคูสติกต่างๆ ทั้งโครงสร้างของงานเพลงที่หลุดไปจากตลาดโดยสิ้นเชิง
ขณะที่เนื้อร้องก็ยิ่งเก๋กว่า เพราะ บรรณเอาเรื่องราวของคนในสังคมยุคไฮเทคไปผสมผสานกับดนตรียุคเก่าได้อย่างลงตัว มันมีทั้งอารมณ์ขัน ความอ่อนหวาน ยางอายของคนที่ควรจะมี แน่นอนเพลงของเขาจำนวนมากเป็นเพลงรัก แต่มันเป็นเพลงรักที่มีเนื้อหาร่วมสมัยและไม่ใช่มีเรื่องราวที่จับต้องไม่ได้มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมที่เราเห็นๆ กันอยู่
พูดถึงเรื่องนี้ผมอดจะนึกแอ๊ด คาราบาว หรือ ยืนยง โอภากุล ไม่ได้ เพราะทั้ง บรรณ และแอ๊ด มีความสามารถในการเขียนบันทึกของสังคมในยุคนี้ให้หลายมาเป็นเนื้อเพลงของเขาก็ได้ สมัยก่อนการดึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมจากฝีมือของแอ๊ดนั้นทำได้คมคายเอามากๆ แต่ไปๆมาๆสัมผัสด้านนี้ของเขามันหายไปหมด ความละเมียดละมัยก็หายไปหมด กลายเป็นแอ๊ดที่รู้สึกตื้นเขินเหมือนจะแค่หยิบเอาหนังสือพิมพ์รายวันมาดูเท่านั้นแล้วก็เขียนไปตามข่าวพาดหัวที่เห็นซึ่งทำให้เสน่ห์ของคาราบาวหายไปหมด
ก็ลองคิดดูว่าพอคาราบาวมาทำกับอาร์เอสในนาม หนุ่มบาวสาวปาน หลายต่อหลายคนยังทึ่งแทน เพราะ “สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา” คนที่แต่งเพลงในงานชุดนั้น แต่งเพลงคาราบาวได้ดีกว่าเพลงที่ แอ๊ด คาราบาว แต่งให้คาราบาวร้องเสียอีก
ย้อนกลับมาดูงานของบรรณบ้างว่า มันคือบันทึกปรากฏการณ์ที่ร่วมสมัยและมองเห็นความเป็นไปของสังคมในภาพรวมมากกว่า อย่างชุดแรกของสวีทนุชที่เริ่มด้วยเพลง “ รักยุคไฮเทค” ที่ว่าด้วยความรักในยุคไฮเทคที่สามารถส่งผ่าน MSN สามารถเซฟภาพของเธอคนนั้นอยู่บนเดสท์ท็อป ส่ง SMS หรือ MMS ถึงกันก็ได้ ในโลก Digital ถ้าเรางอนง้อกันก็อาศัยเว็บไซต์ทำ Card แล้วส่ง E-mail ให้เธอ...แล้วจบเรื่องด้วยอย่าเผลอ Delete รักเราลง Recycle Bin
เนื้อหาในเพลงรักของสวีทนุชเป็นอะไรที่เก๋และเปรี้ยวครับ เพราะเนื้อหามันออกมาจากทั้งมุมมองของวัยรุ่น ทั้งมุมมองของสตรีสูงวัย (แต่จิตใจก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ดี) ไปจนกระทั่งจิตใจของผู้ชายที่โคตรจะเป็นจริง คือต่อให้ไม่ใช่วัยรุ่นแต่มีชีวิตที่โลดแล่นอยู่บนยุคสมัยนี้ก็จะรู้สึกอินไปกับเพลงได้ง่ายดายอย่างยิ่ง
ติดหูหนึบเลยละครับตั้งแต่ฟังกันครั้งแรก
ผ่านไปเกือบ 3 ปี สวีทนุชมีงานชุดใหม่ของเธอ ในนาม “สวีทนุช...ที่สุดหวาน” งานนี้ไม่มีอะไรใหม่ มีแต่ตอกย้ำสิ่งที่เธอเป็นและโปรดิวเซอร์คู่ใจที่เป็นลูกเขยของเธอนั่นคือ บรรณ สุวรรณโนชิน ว่า เขาคู่นี้เป็นยอดเซียนในการบันทึกปรากฏการณ์ในสังคมให้คนรุ่นนี้และคนรุ่นถัดๆ ไปให้รับรู้ว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง ผ่านรูปแบบของอารมณ์ขัน เสียงร้องแสนหวาน และบรรยากาศดนตรีของสุนทราภรณ์
ผมคุยกับน้องหลายคนก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่เธอออกเพลงชุดสนุกนึกว่ามันคือการหักหลังแฟนเก่าอย่างไรไม่ทราบ ด้วยการนำเพลงของแกรมมี่มาขับร้องใหม่ แม้นจะเป็นการตีความใหม่ให้ดูราวกับว่ามันเป็นเพลงของเธอ แต่กระนั้นมันก็ไม่ใช่ เพลงเหล่านั้นของแกรมมี่แม้หลายเพลงจะเป็นเพลงที่ดี แต่สำหรับคนฟังเรารู้สึกว่ามันไม่เข้าปากเธอแม้แต่นิดเดียว
แต่พอมาถึงชุดนี้ ดูโอคู่แม่ยายลูกเขยกลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้งหนึ่ง
สวีทนุชเปิดอัลบั้มของเธอด้วยเพลงที่ชื่อว่า 3 จี ที่ทำเอาคนฟังเดาไปล่วงหน้าว่าคุณบรรณคงโขกเรื่องที่เมืองไทยไม่มี 3 จีเป็นแน่ ปรากฏว่าผิดคาดเพราะมันกลายเป็นวิธีที่หนุ่มๆ ใช้จีบสาวมาทุกยุคทุกสมัย ( 3 จี ของสวีทนุชประกอบไปด้วย กิฟท์หรือของขวัญ โกลด์หรือทอง และเจนเทิลแมน ความเป็นสุภาพบุรุษ) ทุกจีที่ว่ามันคงจะไปโดนใจสาวไม่จีใดก็จีหนึ่ง พ่วงกับดนตรีที่เป็นเพลงรำวงประยุกต์งานนี้ก็แจ่มซิครับ
ซิงเกิ้ลหวานๆ อย่างที่สุดของแม่นั้นคงถูกใจคุณลูกหรือแม้กระทั่งคุณแม่แน่ๆ ซิงเกิ้ลส์นี้ปล่อยมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม บทเพลงสวยงามอยู่ในมาตรฐาน เนื้อเพลงนี่อย่าตั้งใจฟังเชียวครับ โดยเฉพาะคนที่จากบ้านมาไกล หรือ คนที่แม่จากเราไปแล้ว ฟังเข้าแล้วจะร้องไห้ขึ้นมาทันที
งานชิ้นนี้มีอุเทน พรหมมินทร์ มาช่วยร้องคู่กับ สวีทนุช ในเพลงแสนหวานที่ชื่อ “ดอกปาริชาติสวรรค์” สวยงามมากครับ บทเพลง “คำนึง” ก็หวานชนิดมดติดลำโพงเลย...เพลงนี้เสียงฟลุ๊ตพุ่งและสวยสุดๆ ..ขณะที่เพลง Call Center ก็คือการถอดวิญญานเพลงคู่ตลกเก่าๆของสุนทราภรณ์อย่าง “หนีไม่พ้น” (ดวงชีวัน โกรธเคืองฉันเรื่องอะไรจ๊ะ..มาทำไม ออกไปให้ไกลดีกว่า) แต่เปลี่ยนเป็นการทวงเงินค่าค้างโทรศัพท์จาก Call Center ที่ฮาที่สุดก็คือเพลง Facebook ที่พูดถึงคนที่ติดเฟซบุ๊กได้อย่างถึงใจ โดยเฉพาะไอ้เจ้าฟาร์มวิลล์นี่แหล่ะครับแต่สวีทนุชทำออกมาเป็นการท่องอาขยานกันเลย
ความโดดเด่นอีกอย่างคือ การบันทึกเสียงครับ ดูสดมากๆ อย่างน้อยเสียงน้ำลายแห้งที่ติดอยู่ตามมุมปากของคุณสวีทนุชนั้นมีให้ฟังกันชัดมากๆ...เอาว่าถ้าเผื่อขนาดนี้ยังชัด เครื่องดนตรีอื่นๆ ก็ไม่ต้องพูดกันละครับว่ามันจะออกมาเป็นรูปร่างขนาดไหน
แฟนเก่าของสวีทนุชนั้นกลับมาซื้อชุดนี้ไปเก็บกันได้แล้วครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นวัยรุ่น ไม่ใช่วัยรุ่น หรือแม้กระทั่งผู้อาวุโสที่เคยตั้งคำถามกับวงการเพลงว่าจะมีอะไรให้พวกเขาฟังหรือเปล่า...งานนี้ขอยืนยันว่าซื้อได้เลย
*************************
คอลัมน์: ดนตรีมีเหตุ: ว่าด้วย'สวีทนุช... ที่สุดหวาน'
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม 2554 โดย นพปฎล พลศิลป์
หลังอัลบั้มชุดแรก "รักยุคไฮเทค" ประ สบความสำเร็จ ด้วยความแปลกใหม่ของตัวงานที่ทำเป็นเพลงลูกกรุงย้อนยุค ซึ่งเป็นสิ่งที่แทบไม่ได้ยินกันแล้วในสมัยนี้ ผสมผสานเข้ากับเนื้อร้อง ที่จับเอาเรื่องราวปัจจุบันมาผูกได้อย่างลงตัว ทำให้นอกจากจะเป็นงานลูกกรุงย้อนยุคในส่วนของเสียงร้อง-ดนตรีแล้ว การนำเสนอก็มีลักษณะของงานล้อเลียนที่ฝรั่งเรียกว่า Parody แถมในบางเพลงก็เป็นเรื่องเสียดสี แสบๆ คันๆ เป็นตลกร้ายในตัวด้วยเช่นกัน
อัลบั้ม "สวีทนุช... ที่สุดหวาน" ยังมีโครงสร้างเดียวกับ "รักยุคไฮเทค" เป็นเพลงลูกกรุงสุนทราภรณ์ เนื้อร้อง-ดนตรีแต่งใหม่ ที่เปิดหัวด้วยเพลง 3G ซึ่งเอาคำว่าสามจี ที่เป็นเรื่องเทคโนโลยี มาใช้กับเรื่องความรักได้น่ารักน่าชัง มีอารมณ์ขัน ฟังเพลินๆ แบบงานล้อเลียน คอนเซ็ปต์ถึงจะคล้ายๆ รักยุคไฮเทค และเป็นในทางเดียวกับ facebook หรือ Call Center ในอัลบั้มเดียวกันนี้ แต่ก็ไม่ใช่คล้ายคลึง เพราะ facebook นั้นมีอารมณ์แบบงานเสียดสีที่แสบๆ มากกว่าจะเป็นงานในเชิงหยอกล้อ ส่วน Call Center ก็เปรียบเป็น จุดไต้ตำตอ ของ พ.ศ.นี้ก็ว่าได้
นอกจากเพลงเบาๆ หยอกล้อ เสียดสี ใน "สวีทนุช... ที่สุดหวาน" ก็มีงานเพลงที่เน้นอารมณ์ ทั้งซาบซึ้ง โรแมนติก ให้สัมผัสได้เยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ที่สุดของแม่, ปาริชาตดอกสวรรค์ หรือว่า คำนึง ที่เป็นการทำเพลงใหม่ให้ดูเก่าได้เนียน ให้อารมณ์ สำเนียงดนตรีในแบบเพลงยุคเก่าได้เต็มๆ เน้นๆ ขณะที่ดนตรีก็ฟังดูลื่นไหลและละเมียดละไม มากกว่าอัลบั้มก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ในแง่ของการทำงาน "สวีทนุช... ที่สุดหวาน" มาพร้อมพัฒนาการของทั้งตัวบรรณ ที่อยู่เบื้องหลัง ทั้งตัว สวีทนุช ที่หากเทียบเสียงร้องในอัลบั้มนี้กับอัลบั้มรักยุคไฮเทค จะรู้สึกได้ว่าเสียงของเธอใน "สวีทนุช... ที่สุดหวาน" ฟังแน่น เต็ม และอิ่มมากขึ้น
ตัวเพลงเองก็ฟังได้เพลินๆ หากที่เปลี่ยนไปก็คือ ความตื่นเต้นในการฟัง ความสดของงานที่ดูจะเทียบกับอัลบั้มชุดแรกไม่ได้ แต่ก็จัดว่าเป็นเรื่องปกติสามัญอยู่แล้ว สำหรับการทำงานเพลงที่อัลบั้มหลังๆ จะให้ความรู้สึกตื่นหูได้ไม่มากเท่ากับงานชุดแรกๆ ไม่แปลกที่คนฟังทั่วๆ ไปจะให้ความสนใจกับงานชุดนี้ไม่เท่ากับรักยุคไฮเทค แล้วยิ่งเป็นงานของสังกัดอินดี้แบบนี้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ความสนใจในวงกว้างที่มีต่ออัลบั้มชุดนี้ดูจะลดไปด้วย ทั้งๆ ที่เนื้องาน "เหนือ" กว่าอัลบั้มที่ผ่านมาด้วยซ้ำ
สำหรับการบันทึกเสียงงานของใบชาซอง ยังรักษาคุณภาพระดับออดิโอไฟล์เอาไว้ได้ แพ็กเกจนอกจากจะมีบุ๊กเลตของอัลบั้มแล้ว "สวีทนุช... ที่สุดหวาน" ยังมีหนังสือธรรมะทำมือให้ได้อ่านกันอีกด้วย
ถือเป็นอัลบั้มฟังสบายๆ ทำย้อนยุคได้ถึง มีอารมณ์ขัน โรแมนติก ครบ ดนตรีก็ละเมียดสมกับเป็นการทำงานของคนดนตรีจริงๆ
********************************
นิตยสาร Stereo / โดย ดร.ชุมพล มุสิกานนท์
******************
Gm2000 sweetnuj supersweet LP / ดร.ชุมพล มุสิกานนท์
**********************
Lp ที่สุดหวาน wave march 2015