Share
อัลบั้ม: ฟิงเกอร์สไมล์ / ศิลปิน: โอเลต้าร์
album: fingersmile / aritist: Oletar
ศุกลวัฒณ์ มาตย์แพง ในนาม Oletar มือกีต้าร์หนุ่มจาก นครพนม ผู้เชี่ยวชาญการเล่น acoustic guitar จบการศึกษา ปวช.จากวิทยาลัยเทคนิคนครพนม สาขาช่างไฟฟ้ากำลัง เริ่มเล่นดนตรีที่คาเฟ่ตั้งแต่ตอนเรียน พอจบ ปวช. จึงเข้ามาศึกษาต่อที่สถาบันราชภัฏจันทรเกษม คณะศิลปศาสตร์ เอกดนตรีสากล ช่วงที่เรียนเขาก็เล่นดนตรีตามร้านอาหารไปด้วย คิดไว้ว่าพอเรียนจบจะไปเป็นครูสอนดนตรีตามโรงเรียนที่บ้านนอก แต่แล้วก็มีงานดนตรีเข้ามาก็เลยทำงานที่กรุงเทพฯมาเรื่อยๆ
Oletar ผ่านการเล่นดนตรีในแบบวงและอคูสติก ชื่นชอบการเล่นแบบ fingerstyle และฝึกฝนการเล่นมาเรื่อยๆ เจอบรรณอีกครั้งหลังจากที่เคยเล่นดนตรีด้วยกันมาหลายๆปีก่อน บรรณให้โอกาสเขาบันทึกเสียงกีต้าร์ให้กับศิลปินในค่าย เช่น สวีทนุช, อุ๊บอิ๊บส์ ฯลฯ ผ่านมาสองสามปี จนกระทั่งบรรณเห็นความสามารถในเชิงกีต้าร์แบบที่ยังไม่มีใครได้ฟัง จึงให้เขาไปทำเพลงบรรเลงไทยเดิมในแบบที่ถนัดโดยใช้กีต้าร์ ทำมาแล้วก็บันทึกเสียงมาเรื่อยๆจนปีกว่า จึงเกิดอัลบั้มนี้ขึ้นในนาม Oletar ซึ่งเป็นชื่อที่ใบชาsongตั้งให้ใหม่โดยผสมกันระหว่าง Ole ที่เป็นชื่อเล่นของเขากับ Guitar ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีประจำตัว
ผลงานเพลงชุดนี้ Oletar ทำไปตามอารมณ์เพลงของแต่ละเพลง เมื่อฟังทำนองต้นฉบับแล้วรู้สึกแบบไหนเขาก็ทำไปแบบนั้น อาจจะเปลี่ยนแปลงบางส่วนหรือประยุกต์ทำนองไปบ้าง ล้วนเป็นไปด้วยความรื่นรมย์ในแบบที่ดนตรีพึงจะพาไป หวังว่าท่านจะมีความสุขและเพลิดเพลินในการฟังเพลงชุดนี้อย่างเต็มที่
บทเพลง “ค้างคาวไม่ยอมกินกล้วย” เพลง ร้องเพียง 1 เพลงจากอัลบั้ม Fingersmile ชุดนี้ แต่งคำร้อง-ทำนอง โดย บรรณ แห่งใบชาsong นำมาจากชื่อเพลง “ค้างคาวกินกล้วย” ซึ่งเป็นเพลงไทยเดิมที่ทุกคนรู้จัก บรรณจึงเปรียบ “ค้างคาว” แทนคนไทยและ “กล้วย” แทนสิ่งดีๆที่ควรอนุรักษ์ของไทย วันเวลาที่ผ่านมามีหลายๆเหตุที่ให้ค้างคาวไม่ยอมกินกล้วยกันแล้ว เนื่องจากกระแสวัฒนธรรมต่างชาติมากมายได้เข้ามาสู่เยาวชนไทยของเราจนทำให้ หลงลืมความเป็นไทย เพลงนี้อาจเป็นแค่สื่อเล็กๆเพียงหนึ่งเพลงที่อยากทำหน้าที่สะกิดให้คนไทย กลับมาอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งดีๆของไทยที่นับวันจะถูกกลืนหายไปทุกที
อัลบั้ม Fingersmile ประกอบด้วยการบรรเลงเพลงไทยเดิมที่เราคุ้นหู เช่น ลาวดวงเดือน, ลาวเสี่ยงเทียน, ค้างคาวกินกล้วย, อัศวลีลา ฯลฯ เล่นด้วยกีต้าร์หลากหลายชนิด ทั้ง Acoustic Guitar, Nylon Guitar, Ukulele, Electric Guitar โดย Oletar ได้ร่ายฝีมืออคูสติกกีต้าร์และเรียบเรียงดนตรีในอัลบั้มนี้ด้วยตัวเองให้ เป็นแบบที่แตกต่าง แต่ฟังง่ายๆสบายๆ ยิ่งถ้าได้จิบน้ำชา กาแฟ จะทำให้ท่านเพลิดเพลินแถมนั่งยิ้มและกระดิกขาโดยไม่รู้ตัว
รายชื่อเพลง / song list
๑ ค้างคาวกินกล้วย (Klang-kow-kin-kluay)
๒ ลาวเสี่ยงเทียน (Lao-siang-thien)
๓ ลาวดวงเดือน (Lao-duang-duen)
๔ พม่ากลองยาว (Phama-klong-yao)
๕ สร้อยแสงแดง (Soi-sang-dang)
๖ อัศวลีลา (Assawa-leila)
๗ เขมรไล่ควาย (Khamen-lai-kwai)
๘ นกเขาขะแมร์ (Nok-khao-khamer)
๙ ต้นวรเชษฐ์ (Ton-worachate)
๑๐ แขกขาว (Khak-khao)
๑๑ ค้างคาวไม่ยอมกินกล้วย (Klang-kow-mai-yom-kin-kluay)
Oletar Biography
The guitarist so-called “Oletar”, performed Thai traditional instrumentals by several types of guitars creating an easy-listening and enjoyable album including one conservative-lyric full track. All produced by Bun
Sukolwat Martpang, or named “Oletar”, was graduated from Nakhon Phanom Technical College, Electrical Power department. He has been playing music at the café during his study. After graduation, he furthered his Bachelor degree at Chandrakasem Rajabhat University, the faculty of Fine Arts, majoring in International Music. During the period, he was also playing music at the café and restaurants, planning his future career as a music teacher in the upcountry.
Fortunately, he was frequently engaged by music works in Bangkok instead. Oletar played solo acoustic as well as performed in a band. His preference is fingerstyle. He kept playing and practicing it until he met Bun again after awhile. Bun offered him an opportunity to have a guitar record for his artists under Baichasong label, like Sweetnuj, Oopibbs, etc.
A few years later, granting Oletar’s music talent revealing his unheard guitar sound, Bun lets him try recording his own Thai traditional instrumentals by guitar for the whole year until the album is finished under “Oletar” which is named by Baicha Song. It is a mixed term between Ole (his nick name) and guitar (his personal music instrument).
Oletar performed each track in his debut album according to his feelings when listening to its original version. A little modification was inspired and improvised by the music emotion itself. Enjoy and treasure the truly pleasure of this album.