อัลบั้ม The Another side of Alienation
ความเมามีความดีแค่วินาทีนั้น
ความเมามีความดีแค่วินาทีนั้น....
ดอกไม้หรือสรวงสวรรค์แค่เอื้อมก็ถึง...
ดวงดาวจันทร์เพียงแค่ยื่นมือดึง...
ความเมาจึงมีบางหมายอย่างเป็นเสน่ห์เย้ายวน...
อย่างฉันตอนนี้มีเงาเป็นภาพเหมือน...
เหมือนเตือนใจให้เห็นเป็นเค้าโครงลางๆ...
ความรับรู้ของฉันกลับตาลปัตรเป็นหลายๆอย่าง...
บัดเดี๋ยวก็สร่างบัดเดี๋ยวก็ซาบ้างก็ดีบ้างก็เบลอๆ...
แล้วเพ้อคิดไปใหญ่...
เพ้อคิดไปเรื่อยเปื่อย...
เหนื่อยรอคอยความหวัง...
เหนื่อยรอคอยความฝัน...
ที่มันยากจะเป็นจริง...
ฉันจึงเมามายในวินาทีนี้...
ทั้งๆที่รู้ว่าเมื่อความเมามันผ่านไป...
อาจปวดหัวเมาค้างปัญหาไม่สูญหาย...
แต่ความเมามายให้ความหมายแก่ฉัน...
วินาทีนั้นมันมีความดี....
ความเมามีความดีแค่วินาทีนั้น....
ไม่ต้องรักก็ได้
เคยรักกันเมื่อไหร่...ถึงบอกให้รักกันเหมือนเดิม..
โรแมนติกเหลือเกิน...รักอะไรจะง่ายนักหนา...
ลองคิดดูว่า...จะเป็นไปได้มั้ย..
ความรักมันจางไป...หรือเป็นเพราะใจมันแคบลง...
ความคิดใครก็คิดได้...อยู่ที่ใครรู้จักคิด...
คิดถูก คิดผิด...ใครเล่าตัดสิน...
เป็นในสิ่งที่เป็น....เห็นอย่างที่เห็น...
เป็นเหมือนดังเช่น...เมื่อเห็นดอกไม้บาน..
ไม่ต้องรักก็ได้...แค่เปิดใจยอมรับกัน...
เห็นความต่างนั้นสำคัญ...งดงามในความไม่เหมือน...
โลกนี้กว้างใหญ่...ยิ่งใหญ่เท่าใดยิ่งหลากหลาย..
คน สัตว์ ต้นไม้...ยิ่งหลากหลายมากมายนัก...
โลกอันเป็นที่รัก...มักไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด...
ไม่ต้องรักกันก็ได้...แค่วางใจเคารพกัน..
ฉันบ้าฉันฝัน
วันที่ฉันฝันก็คือวันที่ฉันท้อ...
วันที่ฉันท้อก็คือวันที่ฉันฝัน...
วันที่ฉันเหนื่อยแต่ฉันไม่หยุดหยั่ง...
ความฝันทำให้ฉันยังหายใจ...
ถามว่าเหนื่อยมั้ย...ใจก็สั่นระริก...
ชีวิตจะพลิกผันอีกแค่ไหน...
ล้มมากี่ครั้งพลั้งอีกจะเป็นไร...
เหนื่อยพักเดี๋ยวก็หาย...
อย่าหมายว่าจะหมดฝัน...
ฉันบ้าฉันฝัน...ฉันจึงมีอยู่...
ทำทุกอย่างก็ทั้งรู้เป็นจริงยากแค่ไหน...
มายาหรือความฝันเชื่อมั่นหรือหลงใหล...
ไกลก็เหมือนใกล้ไขว้คว้าก็หลุดลอย...
วันที่ฉันฝันก็คือทุกวันเหมือนวันนี้...
ฉันอยู่ตรงนี้มีลมหายใจและยังฝัน...
ฝันต่อจากวันวานเพื่อผ่านพ้นอีกวัน...
ทำทุกวันเหมือนความฝัน...
วันทุกวันเหมือนฝันไป...ฯ
ฉันคือต้นไม้
ฉันคือต้นไม้ชูกิ่งก้านใบ..
ยามเมื่อลมไกวฉันก็ไหวเอน...
ยามออกดอกผลก็เป็นเหมือนดังเช่น...
ฤดูกาลที่ผลัดเวียน...
ไม่เคยร้องขอสิ่งใด...
เป็นเพียงต้นไม้ต้นหนึ่ง...
ในจำนวนต้นไม้ที่ไม่อาจคะเนถึง...
เพียงดำรงตนแค่หยัดยืน...
ฉันคือต้นไม้นอกสวน...
ไม่เคยรบกวนการรดน้ำพรวนดิน...
เป็นต้นไม้ป่าประดับดิน...
ผลพอมีให้กินดอกพอมีให้ชม...
ไม่มีราคาค่างวดใดๆผลดอกใบใช่ซื้อขาย...
เป็นต้นไม้ทำหน้าที่ของต้นไม้..
ไม่เคยหมายกลับกลายเป็นอื่นเลย...
จักรวาลของฉัน
ทั้งโลกใบนี้ก็มีเธอคนเดียว...
ที่ถามฉันรักเธอมากแค่ไหน...
เธอบอกรักรักฉันด้วยหัวใจ...
แล้วถามซ้ำรักเธอหรือเปล่า...
ทั้งโลกใบนี้มีเธอคนเดียว...
ที่กอดฉันแล้วบอกกอดตอบหน่อยได้มั้ย...
เธอโอบกอดฉันฉันกอดเธอไว้...
แน่นลึกสัมผัสสู่กลางใจอุ่นใจเหลือเกิน...
โลกที่เหมือนเปื่อยขาดแหว่งเว้าว่างเปล่า...
มีเธอเท่านั้นไม่ต้องการสิ่งใดแล้ว...
เธอเป็นเช่นดังของขวัญสวรรค์สรรค์สร้าง...
ส่งมาให้ถนอมรักษาดูแล...
ฉันจะรักเธอฉันจะโอบกอดเธอ...
เอาไว้ให้แน่บแน่นเนิ่นนาน...
ให้เธออบอุ่นใจให้เธอมีรอยยิ้มเบิกบาน..
ให้เธอ....ผู้ไขขานจักรวาลของฉัน....
เธอคือจักรวาลของฉัน...
ฉันโกหก
เริ่มมาจากบางสิ่งเปลี่ยนแปลงภายในใจ...
ฉันไม่ได้ตั้งใจและไม่อาจควบคุม..
ไม่อาจเผยความจริงด้วยความจริงใช่น่าคุยฟุ้ง...
ฉันจึงต้องปรุงแต่งเรื่องราวกลบเกลื่อนมัน...
เริ่มจากฉันโกหก..พูดความจริงไม่หมด…
ปิดบังเรื่องราวที่ปรากฏ...ว่าไม่มี...ไม่มีอะไร...
เริ่มจากเรื่องที่หนึ่งก็กลายเป็นเรื่องที่สอง...
เข้าทำนองคุ้นเคยทำซ้ำๆเป็นธรรมดา...
ใช่ไม่รู้สึกผิดแต่ความคิดมันหวาดผวา...
กลัวถูกจับได้ว่าฉันพูดความไม่จริง...
จึงโกหกซ้ำๆปิดบังอำพราง..
ความจริงถูกขว้างทิ้งไป...
หลอกลวงตัวเองหลอกลวงใครๆ...
หลอกลวงแม้ในใจไม่รู้สึกดี...
เหมือนขึ้นหลังเสือ..กระโจนลงไม่ได้..
ลงมาเมื่อใด...คือหายนะ..
ฉันถูกผลักไสให้ออกไปจากโลกใบนี้...
สมควรแล้วที่ฉันต้องโดนเช่นนั้น...
ไม่ใช่ฉันหรือใครที่อยากถูกโลกหันหลัง...
แต่มันคือผลกรรมที่ฉันทำ...ฉันโกหก..
ฉันโกหก...ฉันโกหก..ฉันคนโกหก..
ฉัน...คนเลว!!!
ทำเป็นคนดีไม่มีเล่ห์กล...
แค่อยากให้ทุกคนรัก...
แสร้งทำตัวดีให้เป็นที่ประจักษ์...
ให้ได้ความรักที่จริงใจ....
ความรักที่ดีฉันก็มีอยู่...
แค่อยากรู้รักอีกได้มั้ย...
คนรักที่ฉันมียังทำร้ายได้...
คนดีแบบไหนที่ฉันเป็น...
ฉันเป็นคนเลวที่ควรรับโทษ...
ควรถูกโกรธไม่ควรอภัย...
ฉันมันเลวเลวอย่างตั้งใจ...
ความดีทั้งหลายฉันหลอกลวง...
อย่าเชื่อฉัน...อย่าไว้ใจฉัน...อย่าดีกับฉันอีกเลย...
อย่ามอบรัก....อย่าใกล้ชิดคุ้นเคย...อย่าเลย...ฉันคนเลว..
ทำดีอวดตัวซ่อนชั่วภายใน...
ยิ้มตาใสแต่ใจคด...
ตีหน้าระรื่นไม่รู้สลด...
ความดีที่งามงด...สกปรกเพราะฉันทำ...
ป่วย
ผมเป็นอะไรในหัวใจมันเจ็บแปลบๆ
หายใจก็แสบเหมือนมีพิษในลมหายใจ...
กระสับกระส่ายกระวนกระวายแล้วนอนไม่หลับ...
เหมือนมีเสียงขับร่ำลำนำข้างในประสาท...
เรื่องราวประหลาดดังขึ้นในสมองผมป่วน....
* มันคิดแต่ครอบครอง...
มันคิดแต่หมายปอง...
มันคิดอย่างลำพอง...
มันคิดจะจองไว้คนเดียว...
มันคิดอย่างเปล่าเปลี่ยว..
มันคิดคนอื่นไม่เกี่ยว...
มันคิดจะเอาถ่ายเดียว..
มันคิดจะเอาจะเอา...
สงสัยจะป่วยใครโปรดช่วยรักษาผมที...
ชักไม่ค่อยดีเป็นอย่างนี้ผมว่าจะหนัก...
ผมอยากหยุดพักอยากเว้นวรรคเพราะว่ามันเหนื่อย...
หากปล่อยเรื่อยเปื่อยที่ว่าเหนื่อยนั้นคงเป็นบาดเจ็บ...
แล้วจะอักเสบจะเรื้อรังลุกลามไม่หายขาด...( * )
อยากได้ทุกอย่าง...ไม่รู้จักพอ...
ได้แล้วยังจะเอาต่อ...
โดยไม่รอความจำเป็น...
เห็นดีเห็นงาม...
ไม่ทักทานค้านขอ...
เอาเถอะเอามันให้พอ...
ยิ่งมากยิ่งดี....( * )
ป่วย....ป่วย....ป่วย...ป่วย...
เป็นบ้าไปแล้ว...เป็นบ้าไปแล้ว...
เป็นบ้าไปแล้ว...เป็นบ้าไปแล้ว...
เป็นบ้าไปแล้ว...เป็นบ้าไปแล้ว...
ความสุข
ทำไมรู้สึกดีอย่างนี้ทั้งๆที่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม...
ไม่มีอะไรมาเสริมเพิ่มเติมทั้งนั้น...
อาจเป็นเพราะมันกำลังพอดี...
อาหารเล็กน้อยก็ทำให้อิ่มท้อง...
มีเพียงแค่หมอนก็หลับฝันดี...
มีเพียงร่มไม้ได้ฝากกายให้หลบแดด...
ร้อนแสบแผดเผานั้นก็เพียงชั่วคราว...
* สุขอะไรอย่างนี้...เพียงแค่เป็นอยู่...
สุขอะไรอย่างนี้...เพียงแค่มีอยู่...
เฝ้าดูความเป็นไปตรวจสอบลมหายใจ...
ให้เป็นอย่างที่เป็น....
แล้วยังต้องการสิ่งใดอีก...
ตั้งคำถามผิด..เอ้า!ลองตั้งใหม่...
ต้องถามว่าตอนนี้มีอะไร...
จงทำไปด้วยความพอดี...
อาหารเล็กน้อยก็ทำให้อิ่มท้อง...
มีเพียงแค่หมอนก็หลับฝันดี...
มีเพียงร่มไม้ได้ฝากกายให้หลบแดด...
ร้อนแสบแผดเผานั้นก็เพียงชั่วคราว... ( * )
ให้เป็นอย่างที่เป็น....ให้เป็นอย่างที่เป็น...
หญิงใบ้กับความรัก
หูไม่ได้ยิน...พูดก็ไม่ได้..หล่อน-หญิงใบ้...
จิบเบียร์บางๆ..ดวงตาไม่อำพราง...ความอ้างว้างเดียวดาย...
เห็นหล่อนประจำ...เกือบจะทุกวัน...หล่อนรอผู้ชาย..
ผู้ชายสักคน...ใครก็ได้...ที่จะรักจริง....
* ขอเพียงให้ผ่านคืนนี้ไป...
ไม่ต้องอธิบาย....เหตุใด...
ขอเพียงใครสักคน...ที่ยอมพร้อมเข้าใจ...
ในความรักอันเงียบงัน....
ความรักที่ปราศจากเสียง.....
หล่อนร่ายระบำ...ในความเดียงดาย...ไร้เดียงสา.
ทั้งที่แม้ว่า...หูไม่ได้ยิน...เสียงเพลง...
แต่เพลงคงก้องดัง....ในหัวใจ....ที่ร้าวราน...
แม้โลกไม่รับขาน...ส่ายหน้ารำคาญ...หญิงงามเมือง...
หล่อนพริ้มตา...สลัดความเปล่าเปลื้อง...ทีกัดกร่อนใจ....
ขอเพียงให้ผ่านคืนนี้ไป..
พรุ่งนี้จะอย่างไรช่างมัน...
ขอให้โลกรักฉันอย่างที่ฉันรักตลอดมา...
ขอเพียงใครสักคนที่ผ่านมาแล้วจะไม่ผ่านไป...
ขอผู้ชายสักคน....
ฝุ่นควัน
ฉันกำลังเดินไปบนทางที่ฟุ้งฝุ่น...
ที่ไม่คุ้นเคยอย่างกับมีม่านหมอก...
เคลื่อนเข้าครอบครอบรุมสุมขวางทาง...
ต้องใจจะอำพรางให้ทางนั้นมืดมัว...
ให้ตัวฉันต้องมะงุมมะงาหรา...
เพราะฉันต้องผ่านไปไม่มีทางเลือกอื่น...
เพราะที่ชีวิตหยัดยืนไม่อาจฝืนข้อกำหนด...
เป็นกฎบังคับชะตาเกิดมาแล้วต้องอยู่...
อยู่อย่างไม่รู้ทิศทางของตัวตน...
เป็นคนไม่ง่ายอย่างที่คิด...
* ชีวิตฉันตกอยู่ในอ้อมของฝุ่นควัน...
ฉันต้องข่มกลั้นความหวาดกลัวข้างใน...
แต่ฉันต้องไปต่อโดยแกล้งไม่ท้อและหวั่นไหว...
ทั้งที่ใจไขว้เขวและเสียขวัญ...
** เพราะฉันก็ไม่รู้กำลังไปที่ใด...
รู้แต่เพียงต้องไปเพราะมีทางสายเดียว...
จะเหลียวไปทางใดก็เวิ้งว้างไกลสุดสายตา...
พอลองมองกลับมายิ่งเหว่ว้าและสับสน...
เลยต้องดิ้นรนดันทุรังไป...ดันทุรังไป...
ดี...อาจจะดีกว่านี้ก็เป็นได้...
ที่ปลายสุดของทางเดิน...
แต่ความจริงตัวฉันนี้ไม่ได้อยากเดิน...
ไปบนทางเส้นนี้....( ** / * )
ฉันยังอยู่
ฉันยังอยู่...ฉันยังหายใจ..ยังสบายๆ...ฉันยังอยู่ดี...
แค่เจ็บนิดหน่อย...ป่วยบ้างก็อย่างนี้...หลายๆทีฉันเคยผ่านมา..
รู้ว่าเป็นห่วง...ฉันก็ขอบใจ...ที่เธอให้กำลังใจ...ฉันเสมอ...
ขอบคุณทุกสิ่ง...ขอบคุณที่มีเธอ...ขอบคุณโลกใบนี้ยังสวยงาม...
อย่ากลัวไปเลย...วันที่ฉันไม่อยู่...ฉันรู้...เธอก็รู้...ว่าสักวัน..
ทุกลมหายใจทุกชีวิตแสนสั้น...ความตายนั้น...ธรรมดา...
ทุกเสี้ยวเวลานาที...จะทำให้ดีที่สุด...
จะรื่นเริงในร่างกายที่ชำรุด...จะไม่หยุดไม่ท้อต่อโชคชะตา...
ฉันยังอยู่..ฉันยังชื่นชม...สายลมแสงแดด...ยังสวย...
หากวันที่ฉันไม่อยู่...เธอโปรดรับรู้ด้วย...บนท้องฟ้ามีแสงดาว...
นั่นแหละ...ฉันส่งยิ้มมา... ฉันจะส่งยิ้มมา....
อัลบั้ม Basic
คนกวาดใบไม้
ใบไม้ที่ร่วงหล่นเขาก็แค่กวาด..
ไม่เคยตั้งคำถามใดๆ
ไม่เคยร้องบ่นใบไม้ที่ร่วงหล่น..
เพื่อนเอ๋ยหยุดหล่นร่วงได้มั้ย...
บางทีบางครั้งคำถามก็เปลืองเปล่า...
บางเรื่องราวไม่ต้องอธิบาย..
บางทีบางครั้งไม่ต้องข้าใจ..
เพียงแค่เห็นความเป็นไปก็เท่านั้น...
พายุฟ้าฝนจะครืนคราง..
ลมจะหอบพัดมาแรงแค่ไหน..
พรุ่งนี้หรือวินาทีถัดไป..
ต้นไม้จะปลิดใบใบไม้จะเกลื่อนพื้น..
ใบไม้ที่ร่วงหล่นเขาก็แค่กวาด..
กวาดด้วยความสบายใจ..
แหงนหน้ามองต้นไม้ที่ชูใบ...
แล้วยิ้มทักทายเจ้าเพื่อนเอ๋ย...
ฉันไม่ได้เรียนมหา’ลัย
ฉันไม่ได้เรียนมหา’ลัย...เป็นไปด้วยความตั้งใจ...
ฉันคิดว่าหาคำตอบเองได้...ไม่เป็นไรหรอกปริญญา ...
แค่ใบวิชาชีพรับรอง...
เพื่อนฉันทุกคนจบมหาลัย...เราก็คบหากันได้...
ต่างคนมีต้นทุนแตกต่างกันไป...ก็ใช้ไปของใครของมัน...
ต่างคนต่างทำมาหากินกันไป...
ในสังคมโลกใบเดียวกัน...
ดีเลวนั้นต้องสืบสันดาน...
ต่างอาชีพต่างการงาน...
ตอบโจทย์พื้นฐานแค่หาอาหารใส่ท้อง...
ถึงฉันไม่มีปริญญา..
แต่ฉันมีวิชาความตั้งใจ...
ฉันเรียนรู้ฝึกฝนเองได้...
ฉันพอใจในสิ่งที่ฉันเป็น...
ฉันไม่ได้จบมหาลัย...ก็ไม่เคยนึกเสียใจ...
ชีวิตนั้นสั้นจะตาย...ก็แค่เคลื่อนไหวตามหัวใจตัวเอง...
ไม่ต้องสุขล้นไม่ถึงทนทุกข์ ขอแค่พอดี...
อีกฟากฝั่งน้ำ
เบื้องหน้านั้นมีสายน้ำไหลผ่าน..
อีกฝั่งแม่น้ำมีเมืองตั้งอยู่..
เห็นไกลๆตึกอาคารงามหรู..
อยู่ฝั่งนี้คงได้แต่มอง..
มีสะพานทอดข้ามไปอีกฝั่ง..
สองฝั่งนั้นต่างกันสุดขั้ว..
ฝั่งน้ำนี้รู้สึกพอดีสบายตัว.. ,
แต่คนทั่วไปอยากข้ามไปอยู่ฝั่งนั้น..
มุ่งไป..สู่เมือง มุ่งไป..สูความวิไล...
ทิ้งไว้..ฝั่งน้ำนี้ทิ้งไว้.. ทิ้งไป...ไม่กลับมา..
หญิงชรานั่งตกปลา..
มีชีวิตเหมือนดังว่า..
เป็นหนึ่งเดียวกับสายน้ำเบื้องหน้า...
ทุกคนที่ผ่านมาจะเห็นแกตรงนั้น..
ไม่เคยข้ามสู่เมือง...
ฉันนั่งมองเมืองอยู่ฝั่งนี้..
ในขณะที่สายน้ำก็ไหลไป...
หญิงชราตกปลาอยู่ใกล้ๆ...
ฉันถามหัวใจจะเลือกฝั่งไหน... ฝั่งไหนดี...
ล้ม คว่ำ คะมำ หงาย
ได้เห็นหน้าเธอแล้วสั่นไหว..
ใจมันละลายมันครวญคราง..
อยากได้ตัวเธอมาชิดแนบข้าง...
จะไม่ห่างจะแนบชิดนางเดียว...
หลงรักใบหน้า..ใบหน้าๆนี้..
หุ่นเธอเซ็กซี่ขยี้ใจชาย..
ใครจะทนไหวฉันนั้นทนไม่ไหว...
โอ้ยจะบ้าตาย..ฉันเป็นอะไรไป....
แค่ร่างกาย..มันเผาใจให้วอดวาย...
ฟุ้งไป...ความคิดฟุ้งไปใหญ่โต...
โอ้โห้...โงหัวไม่ขึ้นกามตัณหา...
โอ้เสน่หา...ล่อลวงชักพาจนเสียศูนย์..
ร่างกาย...ก็ถุงหนังเดี๋ยวก็ผุพังไปตามเวลา...
ร่างกาย..เนื้อหนังมังสาเสื้อผ้าห่อคลุมซ่อนเร้น...
เห็นแต่ไม่เห็นกลับเห็นที่ไม่ได้เห็น..
เป็นจริงเป็นจังกับทุกข์ขังอนัตตา....
สุขสม..เพียงลมๆสัมผัสผิว
หวาบหวิว..เหมือนกับความหิวมันตามทวง..
เล่ห์ลวง...ลวงให้ใจมันไขว้เขว..
ซวนเซ...ล้ม คว่ำ คะมำ หงาย
แม่ผลไม้สุก
เจ้าดอกไม้วัยสาว...เจ้ายวนเย้าเหล่าแมลง...
ให้มาชื่นชมสุขสมเพื่อเปลี่ยนแปลง...
ผลัดจากดอกกลายเป็นผล...
ไม่ต้องเร่งวันเวลา...เติบโตช้าๆจากผลอ่อน...
อวดทรวดทรงเปล่งปลั่งอรชร...
แม่งามงอนผลไม้...
ช่างยั่วยวนแม่ผลไม้....หอม...ส่งกลิ่นไปทั่วทั้งป่า...
เจ้าสุกปลั่งเป็นที่ปรารถนา...เร้ารัญจวนอุราน่าฝันใฝ่...
อยากจะชิมผลไม้...รสชาดเช่นใดอยากลิ้มลอง...
เคยชื่นชมดอกไม้เมื่อวันก่อน...
ยามนี้ยิ่งน่าถนอม...แม่ผลไม้สุก...
คำบางคำถึงใครบางคน
เนิ่นนานมาแล้วเรื่องเก่าในวันวาน...
อดีตหอมหวานยังตราตรึง..
ณ.ที่ซึ่งความรักเยาว์วัยครั้งหนึ่ง..
ฉันและเธอเคยคู่กัน...
ย้อนนึกถึงวันเก่าเรื่องราวของเราที่ผ่านมา...
ระลึกถึงเสมอความทรงจำมีค่า..
ในช่วงเวลาดีๆที่มีกับเธอ...
เมื่อกาลผ่านพ้นเราต่างค้นหนทางเจอ..
ทางแยกมีเสมอให้เราเลือกเดิน...
ต่างมีเหตุผลไม่ใช่ความบังเอิญ..
เมื่อถึงเวลาก็ต้องจาก...
แม้เราจะไม่ใช่คนรักกัน..
แต่ความผูกพันนั้นมีอยู่...
ถึงเราจะไม่ได้ครองคู่..
แต่ความเป็นมิตรนั้นยังมีต่อกัน...
อยากฝากเพลงนี้ถึงใครคนหนึ่ง..
ซึ่งหล่นหายไปจากชีวิตฉัน..
ถึงส่วนที่หายฉันมีคำบางคำ...
อยากไถ่ถามกัน..เธอสบายดีมั้ย...
Sometime
เหนื่อยมั้ยถามหาความรักที่สวยงาม..
ความจริงความงามก็มีในทุกสิ่ง...
ในความเหงาก็มีบางอย่างให้ได้ซบอิง..
สิ่งๆนั้นคือการละทิ้งบางสิ่งให้ได้อยู่กับตัวเอง...
จะเร่งลัดหนทางไปทิศใด..
เมื่อมองๆไปแล้วทำให้ใจมันคว้าง...
คิดมั้ยชีวิตบางครั้งก็ต้องมีโดดเดี่ยวบ้าง..
ไม่นานหรอกไม่นานเดี๋ยวก็ผ่านพ้นไป...
จะสำมะหาอันใดนักหนาโอ้..กับชีวิต..
คิดก็เป็นก็เพียงความคิดของเราเท่านั้น...
ก่อนจะเคยมีก่อนจะได้มา..
ก่อนที่ว่าก็เดินมาแค่คนเดียว..
มาทำงอแงแห้งเฉาห่อเหี่ยว..
เดี๋ยวก็จะป่วยไม่มีใครหรอกช่วย...
ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองไปก่อน...
ไม่มีสิ่งใดสวยไปทุกสิ่ง..
คงเป็นความจริงแค่บางอย่าง..
ที่เคยร้องหาก็เคยมาแล้วทำไมยังมีการเลิกร้าง..
ความรักที่ว่าสวยงาม..
ก็ต้องมีบ้างให้ได้พักในบางเวลา..
สัมพันธภาพ
ไม่มีใครรู้เลยชีวิตจะเป็นเช่นไร...
อย่างเธอกับเขาที่กำลังเหินห่าง...
และในชีวิตใครจะรู้จะเจอกับใครบ้าง...
เหมือนก่อนหน้านี้ที่เขากับเธอเดินกันคนละฝากฝั่งถนน...โดยไม่รู้จักกัน..
และในวันนั้นเป็นวันอัศจรรย์ได้พบเจอ...
ได้เรียนรู้ลองได้รู้จักได้ดูใจกัน...
ก่อเกิดความสัมพันธ์หากมีกันและกันแบบนั้นคงดี...
เกิดพันธะสัญญาปรารถนาร่วมกัน...
แต่นั่นเป็นความคิดฝันคิดร่วมกันในวันที่ยังดีๆ...
แต่ในวันนี้กลับไม่เป็นดังนั้น...
เพราะความคิดฝันก็ยังเป็นความคิดฝัน...
เธอคิดอย่างนั้นเขาก็ฝันอย่างนี้...
ความพอดี ไม่มี ไม่ลงตัว...
ไม่มีใครรู้เลยชีวิตจะเป็นเช่นไรบ้าง..
จะผกผันเอียงเซจะเทครืนเมื่อไหร่ก็ได้...
เมื่อเห็นไม่ตรงกันก็ไม่ผสมกลมกลืน...
ใช่.ชีวิตไม่ราบรื่นเพราะไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว...
สุดท้ายกลายกลับเหินห่าง...
รักร้างจางจรจากหนีไป...
ไม่ต้องโทษใครไม่มีความผิดใดให้ใครโทษ...
จะโกรธโทษกันไปใย...มันไร้ประโยชน์....
เป็นแค่ความสัมพันธ์ที่อุปสงค์ไม่ลงตัว...
แล้วอุปาทานก็ยั่วชักเรียกร้องนักจนเกินตัว...
ก็ตัวเขาตัวเธอจัดการความสมดุลไม่ได้...
ก็ต้องแยกจากกันไปด้วยเงื่อนไขอันสมควร...
ไม่มีใครรู้เลยชีวิตจะเป็นเช่นไรบ้าง...
อีกฝากฝั่งหนทางอาจมีใครบางคนรออยู่...
ไม่มีใครรู้เลย...ไม่มีใครรู้...
ไม่เป็นไรนะ
ไม่เป็นไรนะคนดี...
เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน..
เคยหนักเหนื่อยอ่อนล้าเสียน้ำตาในบางวัน...
แต่ก็ผันผ่านมาแล้วใช่มั้ย...
ไม่เป็นไรนะแก้วขวัญ...
ดูซิจันทร์ดวงนั้นดวงเดิม...
อาทิตย์ไม่สิ้นแสงแดดยังแรงเหมือนเคย...
โธ่เอ๋ย...ความทรงจำโบยตีเรา...
เหมือนโต๊ะทำงานที่ยุ่งเหยิง...
ชั้นวางกระจัดกระจาย...
เราช่วยจัดเก็บหน่อยดีมั้ย...
มาชื่นชมต้นไม้ที่เราปลูกไว้...
ดูช่อใบที่ชื่นชูเติบโต....
ไม่เป็นไรนะคนดี...
คนดีนะไม่เป็นไร...
จะนับหนึ่งสักกี่ครั้งก็ยังได้เริ่มใหม่...
ไม่เป็นไรนะไม่เป็นไร...คนดี.
อีกครั้งด้วยกัน
ไม่รีบใช่มั้ย..ช้าๆค่อยๆไป..
ไปตามเสียงของหัวใจ...ฟัง..เสียงนั้น...
กี่ครั้งที่ผ่านไป...อีกสักครั้งจะเป็นไร..
เรียนรู้ผิดถูกได้...ไม่เป็นไร..ลองอีกครั้ง..
ครั้งนั้นที่ผ่านพบแล้วครั้งนั้นก็ผ่านไป..
ครั้งนี้ละจะได้มั้ยหรือจะผ่านไปอีกที..
รักไม่ใช่แค่รัก...รักไม่ใช่แค่นี้...
ความรักยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง...
นับหนึ่งอีกครั้ง...อีกครั้งและอีกครั้ง...
เดินไปพร้อมๆกัน...พร้อมๆกัน...
ไม่ต้องคาดหวัง...แค่เดินไปด้วยกัน..เดินไปด้วยกัน..
ไม่จำเป็นต้องได้ทุอย่าง
ติดกับดักตัวเอง...
ติดกับดักความคิด..
ติดกับดักที่ยึดติด..
คิดที่คิดว่ามันใช่...
จมกับเงื่อนไข..จมกับการคว้าไขว่..
จมกับคุณค่าที่วางไว้..
แล้วอ้างทำไมทำไมไม่ทำ...
เหนื่อยมั้ยเธอ..เจอมากี่หน...
อีกกี่ครั้งที่ต้องทน...
กว่าจะพ้นกว่าจะเข้าใจ...
บอกตัวเองสักที...เตือนตัวเองให้ดี...
บางทีต้องปล่อย..บางครั้งต้องรอคอย...
ไม่จำเป็นต้องได้ทุกอย่าง...
ทำวันนี้ให้ดีกว่า
ฉันไม่อาจเสียใจ..
สิ่งที่ทำลงไปไม่อาจย้อนคืน..
หากให้หวนกลับไปฉันก็จะยืนยันทำเช่นเดิม...
แม้จะมีเรื่องราว...
ที่จะร้าวเจ็บไม่มีวันลืม...
ความทรงจำฉันยินดีจะดื่ม..
ฝืนกลืนลงไปในคอ..
รสชาดมันจะขื่นขมเพียงใด...
ทำลงไปต้องยอมรับมัน...
เป็นความจริงไม่อาจแปรผัน..
ยังเหลือคืนและวัน..ยังต้องเจอะเจอ..
ทำวันนี้ให้ดีกว่า..
ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน...
ทำทุกวินาทีแล้วตรวจทานอย่าปล่อยผ่านไป..
จะได้ไม่เสียใจ..กับวันวาน..
ขณะกาล
ฉันกำลังหายไปในลำแสงจักรวาล...
ฉันกำลังเดินทางไปสู่ความลืมเลือน...
จะไม่มีใครจดจำฉันได้จะไม่มีใครสงสัย...
ในวันที่ฉันไม่มีตัวตน...
ในวันที่ฉันหล่นจากโลกหายไป...
ฉันเป็นเพียงฝุ่นในสายลมเพียงพัดพลิ้วไป...
เพียงปรากฏกายเพียงชั่วคราว...
ไม่เคยคิดจะคงอยู่...
ไม่เคยเรียกร้องว่าต้องอยู่...
รู้เมื่อถึงเวลาก็ต้องไป...
มีชีวิตจึงมีอยู่...จบชีวิตก็ไม่อยู่...
รู้ดี....ชีวิตชั่วขณะกาลช่วงเวลาหนึ่ง...
ฉันจึงพร้อมจะหายไปหายไปชั่วกาล...
หายวับอันตรธานเพียงกระพริบตา...
ไม่ให้ใครจดจำฉัน...
แม้แต่ความทรงจำของฉัน...
ก็อยากให้หายไป...